จากกรณีที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้ Sultan al-Jaber ประธานบริษัท Abu Dhabi National Oil(ADNOC) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 28 (COP28) ที่จะมีขึ้นที่กรุงดูไบในเดือนธันวาคม 2566 นี้ เทรซี คาร์ตี ผู้ประสานงานฝ่ายการเมืองว่าด้วยสภาพภูมิอากาศโลก กรีนพีซ สากล กล่าวว่า
“กรีนพีซรู้สึกตระหนกอย่างยิ่งต่อการแต่งตั้งซีอีโอบริษัทน้ำมันให้เป็นผู้นำการเจรจาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ถือเป็นแบบอย่างที่เป็นอันตราย สุ่มเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และความไว้วางใจที่สหประชาชาติมอบให้ในนามของประชาชน คนรุ่นปัจจุบันและอนาคต การประชุมเจรจา COP28 ควรนำไปสู่ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการปลดแอกเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด (ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซฟอสซิล) ไม่มีที่สำหรับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลในการเจรจาเพื่อกอบกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก”
นอกจากนี้ Amnesty International ก็ได้แสดงความกังวลต่อเรื่องนี้เช่นกัน โดย Chiara Liguori, Amnesty International’s Climate Advisor ได้กล่าวว่า “การมอบหมายให้ CEO บริษัทน้ำมันชั้นนำของประเทศอาจทำให้เกิดความกังวลเพิ่มขึ้นว่า UAE จะใช้ตำแหน่งประธาน COP28 เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล”เรียกได้ว่าการแต่งตั้ง CEO บริษัทน้ำมันมาเป็นผู้นำ COP28 เป็นเรื่องใหญ่ที่องค์กรสิ่งแวดล้อมต่างเป็นกังวล เราต้องคอยจับตาดูกันต่อไปว่า COP28 จะได้กลายเป็นอีหนึ่งงานฟอกเขียวดั่งที่ Greta Thunberg ได้กล่าวไว้หรือไม่?
Reference:
https://www.greenpeace.org/…/climate-comment-new-cop28…/
https://www.amnesty.org/…/climate-putting-uae-oil…/