เมื่อโลกของเราหันมาให้ความสนใจเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น และนักลงทุนมีแนวโน้มลงทุนกับบริษัทที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (#Environmental , #Social, #Governance)เพราะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ได้อย่างโดดเด่น แปลว่ามีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ได้มาตรฐาน มีความโปร่งใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งสิ่งนี้มีผลต่อความสามารถในการสร้างผลกำไร การแข่งขัน ภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และความอยู่รอดขององค์กร ทำให้นักลงทุนอยากจะลงทุนในบริษัทเหล่านี้มากกว่าบริษัทที่ไม่สนใจ ESG ในไทยบริษัทหลายรายก็มีการนำข้อมูลด้าน ESG มาจัดทำรายงานความยั่งยืน เพื่อเปิดเผยต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน และสาธารณชน ควบคู่กับรายงานข้อมูลทางการเงิน ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็มีการจัดทำรายชื่อ “#หุ้นยั่งยืน” ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึง ESG ซึ่งภายในปี 2573 บริษัทที่ไม่มี ESG อาจกลายเป็นบริษัทที่ล้าหลัง หรือไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเป้าหมายความร่วมมือด้านความยั่งยืนของโลกที่ประเทศสมาชิกกว่า 193 ประเทศรวมถึงไทยได้ให้คำมั่นว่าจะร่วมกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เรียกได้ว่า ESG จะเป็นเทรนด์ในอนาคตที่บริษัทต่างต้องลงทุนในการจัดการให้สอดคล้องเป็นไปตามแนวทางเพื่อให้โลกของเราดำเนินต่อไปได้อย่างยาวนาน และมีสิ่งแวดล้อมท่ีน่าอยู่